ประกันสุขภาพมีความจำเป็นหรือไม่?
แม้ว่าปัจจุบันเราจะมีสวัสดิการด้านสุขภาพจากทางภาครัฐบาลไว้คอยรักษาในยามเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม หรือบัตรทองก็ตาม แต่ด้วยทุกวันนี้โรคภัยแปลก ๆ ใหม่ ๆ นั้นเกิดขึ้นมามากมาย ทำให้การรักษาพยาบาลนั้นค่อนข้างที่จะมีราคาที่สูง เพราะในบางโรคอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นล้านบาทก็มี ทำให้บางคนที่ไม่มีเงินสำรองจ่ายในการรักษาพยาบาลก็อาจจะหลีกเลี่ยงโดยการไม่รับการรักษาไปโดยปริยาย เพราะด้วยเงินทุนที่อาจมีจำกัด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองและบุคคลในครอบครัวของทุก ๆ ท่าน เพราะทุกการเจ็บป่วยนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย และยิ่งปล่อยให้เลยเถิดเนิ่นนานไปอาจก่อตัวกลายเป็นโรคร้ายได้ที่สุด ก็ยิ่งทำการรักษานั้นยากลำบากมากยิ่งขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราทุกคนมีประกันสุขภาพก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เป็นประกันภัยไว้คอยเติมเต็มในยามเจ็บป่วยได้ในทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว หรือคนในครอบครัวมีปัญหาด้านสุขภาพก็ไม่ต้องคอยกังวลใจ หรือทุกข์ใจกับค่ารักษาพยาบาลที่แพงแสนแพงอีกต่อไป และยังทำให้การรักษาโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่นั้นรักษาหายได้ทันท่วงที เพราะไม่ต้องปล่อยให้ต้องทุกข์ระทมกับโรคต่าง ๆ เป็นระยะเวลาเนิ่นนาน เพราะเมื่อมีประกันสุขภาพเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวคุณเองและคนในครอบครัวได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่ารักษา ค่าห้องพัก หรือค่าใช่จ่ายอื่น ๆ และยังได้รับเงินค่าชดเชยรายวันอีกด้วย
และทุกวันนี้การซื้อประกันสุขภาพนั้นสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายได้ ไม่ได้ยากเหมือนในสมัยก่อน โดยผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เว็ปไซด์ หรือผ่านทางสมาร์ทโฟนได้ที่ rabbit finance โบรกเกอร์ประกันภัยแถวหน้าของเมืองไทย ที่ลูกค้าต่างให้ความไว้วางใจเป็นจำนวนมาก ที่จะช่วยย่นระยะเวลาในการเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันภัย หรือรูปแบบประกันสุขภาพที่เหมาะสมให้แก่คุณและบุคคลในครอบครัวได้ เพราะที่นี่ได้รวบรวมบริษัทประกันภัยที่มีผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของเมืองไทยไว้ในที่เดียวกันโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาหาประกันสุขภาพที่โดนใจให้ยุ่งยาก
เมื่อเรารู้แล้วว่า โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และนับวันค่ารักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วยก็มีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกๆ ปี จากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีวิวัฒนาการที่ทันสมัยมากขึ้น ฉะนั้นแล้วการทำประกันสุขภาพจะเป็นตัวช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนคุณและครอบครัว สนใจทำประกันสุขภาพคลิกเข้ามาได้ที่ rabbit finance
ประกันสุขภาพแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
อย่างที่ทราบกันว่า การซื้อประกันสุขภาพนั้นคุ้มค่าแค่ไหน จึงถือเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรมี เพราะนอกจากจะได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดจากการเจ็บป่วยจากโรคภัยต่าง ๆ แล้ว บริษัทประกันภัยจะเข้าทำการจ่ายแทนให้กับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรักษากรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบริการทั่วไป ค่าใช้จ่ายจากการผ่าตัด ค่าใช้จ่ายกรณีทำฟัน ค่าคลอดบุตร หรือค่าชดเชยรายวันระหว่างต้องนอนโรงพยาบาล เป็นต้น
นอกจากนี้ ประกันสุขภาพ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการจะนำเบี้ยประกันไปใช้เพื่อเป็นสิทธิประโยชน์ลดหย่อนทางภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งประกันสุขภาพนั้นก็มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่จะเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 รูปแบบ ได้แก่
ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) ที่ให้ความคุ้มครองในกรณี เกิดการเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุและแพทย์วินิจฉัยว่า ต้องเข้ารับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาล ซึ่งต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง
ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง เช่น กรณีปวดหัว ตัวร้อน อุบัติเหตุเล็ก ๆ เป็นต้น หรือเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วแพทย์ได้ทำการรักษาวินิจฉัย และทำการจ่ายยา ให้กลับบ้านได้
ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง แผนประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคร้ายแรง เช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวสมอง ระบบหลอดเลือด หรือการบาดเจ็บที่ร้ายแรง เป็นต้น ซึ่งเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาเป็นระยะเวลานาน
ประกันสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ประกันสุขภาพแบบปกติ
เป็นความคุ้มครองแบบพื้นฐานที่ผู้ถือกรมธรรม์ไม่ว่าจะเจ็บป่วยกี่ครั้งก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้หมด ไม่ว่าจะเป็น ค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร เช่น เบิกค่าห้องได้ไม่เกิน 1,200 บาทต่อวัน ค่าอาหารไม่เกิน 500 บาทต่อวัน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ประกันรูปแบบนี้ถึงจะคุ้มค่า แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของวงเงิน ซึ่งถ้าเกินจากค่าเบี้ยประกันที่ทำไว้ก็ต้องทำการสำรองจ่ายส่วนต่างนั้นเอง - ประกันแบบเหมาจ่าย
มีราคาค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงกว่าแบบแรก แต่มีข้อดีอยู่ที่ว่า เราสามารถเบิกเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้เรื่อยๆ ตามที่ต้องจ่ายจริง ซึ่งสูงสุดไม่เกินวงเงินที่กำหนด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ด้วย เพราะแต่ละบริษัทมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป เช่น ค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่ารักษาพยาบาล ที่แต่ละบริษัทจะกำหนดวงเงินการรักษาสูงสุดที่สามารถเบิกได้ต่อวันนั้นเป็นจำนวนเท่าไร